“กูยังเล่าไม่จบ เลย มีหลายๆครั้งที่มีคนเห็นภารโรงคนนั้น ขึ้นมาเดินที่ชั้น 3 ทำความสะอาดไปร้องเพลงไป” บอลพูดจบ
“ฮึมๆๆ” เสียงฮัมเพลง ที่ดังมาอีกด้านหนึ่งของตึก ซึ่งเป็นเสียงผู้หญิง เย็นๆ ก็ดังขึ้น
ทั้ง 3 คนตกใจ รีบวิ่งเข้าไปในห้องพักครูชั้น 3 ข้างบันได ซึ่งมืดและไม่มีใครอยู่
“เอาไงดีวะ ทำไมมึงพึ่งบอกละเนี่ย กูก็คิดว่ามีแค่นั้น ตอนแรกก็เหมือนเป็นคนใจแข็งนะมึงไอ้บอล” โต้งเริ่มติบอล
ทั้ง 3 คนปิดประตูอยู่ในห้อง แต่โชคยังดี ที่ไฟในห้อง แยกกับไฟด้านนอกของตึก ทำให้สามารถเปิดได้
“ฮึมๆๆๆ” เสียงฮัมเพลงเริ่มใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
“ใจเย็นไว้ๆ เราอยู่กัน 3 คน ไม่เป็นไรๆ เกาะกันไว้นะพวกมึง” โต้งพูด
ทั้ง 3 คน เกาะกันนั่งข้างโต๊ะ อาจารย์ ด้วยความหวาดกลัว
ต่างคนต่างเบียดกันเข้า จนหนังสือในห้องที่วางอยู่เกิดล้มเสียงดังขึ้นมา
เสียงฮัมเพลง...ก็หยุดลง ทุกอย่างเงียบสงัด
“ชิบหายแล้วววว” บอลพูดด้วยแสงแหบๆ
ในกองหนังสือที่ล้มลงนั้น ก็มีเล่มหนึ่งที่เปิดออกและอยู่ด้านข้างของเกมพอดี และเกมก็หัน ไปดู
“ฮือๆๆ” เกมเริ่มร้องไห้ แต่ไม่ดังมากนัก
“พวกมึง ดูนี้ดิ” เกมชี้ให้ทุกคนดูที่หนังสือหน้านั้น
ที่หน้านั้นเป็นรูปของภารโรงผู้หญิงคนหนึ่ง หน้านั้นเป็นข้อมูลของบุคลากรที่ถูกจ้างให้มาทำงานในโรงเรียนนี้
“ทำไมวะ” โต้งถาม
“คนนี้แหละ” เกมตอบด้วยเสียง สะอื้น
“มึงรู้ได้ไง มึงใจเย็นๆ” โต้งบอก
“มึงรู้มั้ย ทำไมกูถึงออกมาจากตู้เก็บของไม่ได้... เพราะน้าภารโรงคนนี้ เค้ากดขากูไว้อยู่ในตู้ กูกลัวมาก มึงรู้มั้ยกูกลัวมาก” เกมพูด
ในขณะที่เพื่อนอีก 2 คน นิ่งหน้าซีด ถอดสี พูดไม่ออกเลย
“พอพวกมึงเปิดเข้ามา เค้าก็หายไปทันที” เกมพูดต่อ
ปั้งๆๆ!!! เสียงเคาะประตูดังมาก
ทั้ง 3 กอดกัน ไม่มีใครกล้าลืมตา หรือมองไปที่ประตูเลย
ปั้งๆๆๆๆ!!! เสียงเริ่มดังอีกครั้ง
แต่ทั้ง 3 คน กอดกัน และไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
ปั้งๆๆๆ!!! แต่ครั้งนี้...กลับเป็นเสียงทุบโต๊ะที่พวกเขานั้งพิงกันอยู่
ทั้ง 3 ตกใจมาก แต่ก็ไม่กล้าทำอะไร
“พวกมึงอย่าทิ้งกูไปนะ” โต้งพูด พร้อมทั้งกอดทุกคนไว้แน่น ไม่ลืมตา
ปั้งๆๆๆๆๆ!!! ครั้งนี้เสียงมาถี่ และดังมาก จากโต๊ะที่พวกเขาพิง
โต้งจับมือทุกคน ตะโกนขึ้นมาว่า
“วิ่งๆ”
ทุกคนรีบวิ่งตามโต้งออกมาจากห้องอย่างไม่คิดชีวิต วิ่งลงบันไดมา ผ่านชั้น 2
เห็นผู้หญิง เดินทะลุผ่านหน้าต่างออกไป
ทั้ง 3 ไม่สนใจ วิ่งจนมาถึงชั้น 1 แต่ก็ไปไหนไม่ได้ เพราะตึกปิด
ทั้ง 3 ยืนกอดประตูตึก พร้อมตะโกนเสียงดังลั่น
“ช่วยด้วยยยย ช่วยด้วยครับบบบ ฮือๆๆๆๆ”
ทั้ง 3 คนเริ่มหมดแรง และนั่งลงกับพื้น
แต่ที่ทำให้ทั้ง 3 คนต้องตัวสั่นขึ้นมา เพราะเป็นเสียงคนเดินจากชั้น 2 ค่อยเดินลงบันไดมา
“ฮือๆๆๆ กูไม่ไหวแล้ว” บอลพูดพร้อมกับร้องไห้
เสียงนั้นเริ่มเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เริ่มมีเงาตะคุ่มๆ ค่อยๆเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
จนเหลือเริ่มชัด และเหลืออีกแค่ ประมาณ 5 ขั้น ก็จะถึงตัวทั้ง 3 คน
“อ้ากกกกกกกกกกกกกกก” ทั้ง 3 คนร้องดังขึ้น
“ตึงๆๆๆ” เสียงไฟ ที่เปิดขึ้นทั้ง ตึก
“ครึดๆๆๆ” เสียงประตูตึกเปิดออก
“โต้ง โต้ง เป็นอะไรมั้ยลูก” เสียงพ่อของโต้งเรียกโต้ง ที่เหมือนจะขาดสติ
“พ่อ พ่ออออ ช่วยด้วยครับ” โต้งพูด อย่างกระวนกระวาย และดีใจมาก ที่มีคนมาช่วย
“แล้วดึกๆ เค้าไม่ให้อยู่ ไม่รู้เหรอไง” ยามที่มาเปิดประตูให้พูดขึ้น
“ไม่เป็นไรๆ เป็นอะไรเนี่ย แล้วทำไมไปอยู่ในตึก แทนที่จะรีบกลับบ้าน” พ่อพูดกับโต้ง
ทั้ง 3 คนเริ่มตั้งสติ ค่อยๆ มองกลับไปที่บันได ตอนนี้ทั้งตึกสว่างหมด
ไม่มีอะไรอยู่ที่บันไดนั้น
“ปะๆ กลับบ้านๆ เดี๋ยวพ่อไปส่งเพื่อนๆ เรากลับบ้านด้วย แล้วเล่าให้ฟังสิ ไปเจออะไรมา ดูสิ เหงื่อท่วมตัวไปหมดเลย”
ทุกคนเดินออกมาจากตึก พ่อของโต้ง และอีก 3 คน เดินกันไปที่สนามฟุตบอล เพราะรถของพ่อโต้งจอดอยู่ที่นั่น
ยามปิดตึก และรีบกลับทันที เหมือนรู้ว่าพวกโต้งเจออะไรมา
“มันเกิดอะไร ขึ้นละเนี่ย กลัวจนตัวสั่นกันไปหมดเลย” พ่อโต้งถาม พร้อมกับสตาร์ทรถ และกำลังเร่งเครื่องออก
“ผีครับ พ่อ พวกผมเจอผีกันมา” โต้งพูด
“เห้ย เอาจริงๆดิ เดี๋ยวพรุ่งนี้พ่อพาไปทำบุญ” พ่อโต้งพูด
ทั้ง 3 คน นั่งอยู่เบาะหลัง เกาะกันแน่น เหมือนกับว่า ทั้งวัน ทำงานมากันจนเหนื่อย
ทั้ง 3 คน ไม่กล้าที่จะหันไปมองที่ตึกเลย จนกระทั่งรถเคลื่อนตัวออกไปจากตัวโรงเรียน
เพราะกลัวว่า จะต้องเห็นภาพ ภาพที่เป็นภารโรง เดินทะลุหน้าต่าง ออกมาจากชั้น 2 .....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น